
Ovarian Dating/Ovulation Induction การกำหนดวันไข่ตกและการกระตุ้นชักนำให้ไข่ตก
การกำหนดวันไข่ตก (Ovarian Dating)
การที่เราทราบกำหนดวัน ไข่ตกล่วงหน้า ซึ่งจะช่วยวางแผน การมีเพศสัมพันธ์ เพื่อให้มีโอกาสตั้งครรภ์สูง ในแต่ละรอบเดือน โดยธรรมชาติ ไข่จะตกเดือนละ 1 ฟอง มักจะตกสลับซ้ายและขวา หลังไข่ตกจะเดินทางเข้าท่อนำไข่ เพื่อมาผสมกับเชื้ออสุจิ หลังปฎิสนธิจะเกิดเป็นตัวอ่อนขึ้น ตัวอ่อนจะเดินทางกลับไป ฝังตัวในโพรงมดลูก และพัฒนาต่อ จนครบกระบวนการตั้งครรภ์
การกำหนดวันตกไข่ สามารถทำได้ง่ายๆ หากรอบประจำเดือน เรามาสม่ำเสมอ คืออยู่ระหว่าง 21-35 วัน เราก็จะหาวันตกไข่ได้ไม่ยาก เช่น รอบเดือนมาทุก ๆ 26 วัน ให้เอา 14 ไปหักออก (26-14= 12) เราก็จะทราบวันตกไข่ ว่าตกในวันที่ 12 ของรอบเดือน ถ้ารอบเดือนมาทุก ๆ 28 วัน ให้เอา 14 ไปหักออก (28-14= 14) เราก็จะทราบวันตกไข่ ว่าตกในวันที่ 14 ของรอบเดือน เช่น คุณผู้หญิง มีรอบเดือนห่างกัน 32 วัน, วันตกไข่คือ วันที่ 18 (32 หัก 14 ออก) ของรอบประจำเดือน เช่นนี้คือการนับวันตามปฏิทิน ปัจจุบันสะดวกยิ่งขึ้น มีโปรแกรมในคอมพิวเตอร์ หรือแอพพลิเคชั่น ในมือถือช่วยคำนวณ หรือใช้ชุดตรวจปัสสาวะ ช่วยประเมินการตกไข่ ร่วมด้วยก็ได้
สำหรับคุณผู้หญิง ที่มีรอบประจำเดือน ไม่สม่ำเสมอ แสดงว่าในแต่ละเดือน ไข่ของท่านตกไม่สม่ำเสมอ หรือไม่ตก แบบนี้ยากที่จะบอก วันตกไข่ได้ชัดเจน โดยการนับวัน แนะนำให้เข้ามาพบแพทย์ที่ สไมล์ ไอวีเอฟ คลินิก เพื่อช่วยกระตุ้นไข่ชักนำให้ไข่ตก
การกระตุ้นชักนำให้ไข่ตก (OI : Ovulation Induction)
การที่แพทย์จะให้ยากระตุ้นไข่ เพื่อช่วยให้ฟองไข่ขนาดเล็ก ๆ เจริญเติบโต จนได้ขนาด และระยะที่เหมาะสม จนกระทั่งมีการตกไข่ หรือบางครั้งมีการใช้ยา ฮอร์โมนร่วมด้วย เพื่อชักนำให้มีไข่ตก จุดมุ่งหมายคือ ต้องการให้ฟองไข่ เจริญเติบโตสมบูรณ์ และมีจำนวนฟองไข่ที่มากขึ้น เพื่อช่วยทำให้โอกาสตั้งครรภ์สูงขึ้น โดยแต่ละรอบ คาดหวังว่าจะให้ได้จำนวนฟองไข่ อย่างเหมาะสมคือ 1-3 ฟองต่อครั้ง การกำหนดวันไข่ตกได้ อย่างแม่นยำ และแน่นอน จะช่วยกำหนดวัน และเวลาการมีเพศสัมพันธ์ ที่เหมาะสม และเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ ให้สูงสุดในแต่ละรอบเดือนนั้น
ใครบ้างที่เหมาะจะกระตุ้นชักนำให้ไข่ตก
- ในสตรีที่มีท่อนำไข่ปกติทั้ง 2 ข้าง หรืออย่างน้อยหนึ่งข้าง ที่มีประจำเดือนมา ไม่สม่ำเสมอ มีความผิดปกติ ของฮอร์โมนต่อมใต้สมอง, ฮอร์โมนไทรอยด์ เหล่านี้ทำให้มีการตกไข่ผิดปกติหรือไม่ตก
- ในสตรีที่มีการตกของไข่เป็นปกติ ก็ยังได้ประโยชน์จากวิธีการนี้ คือช่วยเพิ่มโอกาส ของการตั้งครรภ์โดยเพิ่ม จำนวนฟองไข่ที่จะตกในรอบนั้น ทำให้อัตราการตั้งครรภ์เพิ่มขึ้น
- ฝ่ายชายควรมีผล น้ำเชื้ออสุจิ จำนวน ตัววิ่ง รูปร่างปกติ
ขั้นตอนในการรักษา
แพทย์เริ่มใช้ยากระตุ้นแบบกิน หรือฉีด เพื่อกระตุ้นฟองไข่ ในช่วงต้นของรอบเดือน ช่วงวันที่ 3-5 ของรอบประจำเดือน เป็นระยะเวลา 5 วัน ติดตามการเจริญเติบโตของฟองไข่ โดยใช้การตรวจอัลตราซาวด์ ทางช่องคลอด เมื่อขนาดฟองไข่โต เหมาะสมถึง 18-20 มิลลิเมตร จะมีการเหนี่ยวนำ ให้มีการตกไข่ ด้วยยาฮอร์โมน อาจจะมีการตรวจยืนยัน จากแผ่นตรวจปัสสาวะร่วมด้วย แล้วแพทย์จะกำหนดวัน ให้มีเพศสัมพันธ์กันต่อไป
โอกาสประสบความสำเร็จ
อัตราการตั้งครรภ์ ขึ้นกับปัจจัยพื้นฐาน ด้านอายุของฝ่ายหญิง จำนวน และคุณภาพฟองไข่ คุณภาพน้ำเชื้ออสุจิ โดยความสำเร็จด้วยวิธีนี้ ในกลุ่มผู้หญิงอายุน้อยกว่า 35 ปี อยู่ระหว่าง 10-15% ต่อเดือน หรือ 40 – 50% หากรักษาในระยะเวลา 6 เดือน หลังจากนั้น อัตราความสำเร็จ จะลดลงเกินครึ่ง เหลือ 5-7 % ต่อรอบรักษา และหากรักษาเกิน 1 ปีไปแล้ว โอกาสตั้งครรภ์จะน้อยมากเพียง 2-3% ต่อเดือน และหากอายุมากขึ้น ความสำเร็จก็จะลดลงไปอีก ดังนั้น ถ้าได้พยายามด้วยวิธีนี้ เกิน 6 เดือนแล้ว ควรรีบเข้ารับคำแนะจากแพทย์เพิ่มเติม
จุดเด่นของการกระตุ้นชักนำให้ไข่ตก
เป็นวิธีที่สะดวกไม่ซับซ้อน ง่ายในการปฏิบัติ ประหยัดค่าใช้จ่าย เป็นวิธีที่เลือกใช้เพื่อเสริมวิธีธรรมชาติ จุดด้อยของการกระตุ้นชักนำให้ไข่ตก ใช้ได้ผลดีในผู้ป่วย เพียงบางกลุ่มเท่านั้น อัตราผลสำเร็จโดยรวม ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น อายุของฝ่ายหญิง, จำนวน, คุณภาพของฟองไข่, และน้ำเชื้อ รวมถึงสาเหตุของภาวะมีบุตรยาก ของแต่ละคู่ด้วย ทำให้โอกาสการตั้งครรภ์ต่ำ ยิ่งนานเข้าโอกาสสำเร็จจะยิ่งลดลง
[NEXForms id=”6″ open_trigger=”popup” auto_popup_delay=”” auto_popup_scroll_top=”” exit_intent=”0″ type=”button” element_class=”” text=”::ปรึกษาแพทย์ออนไลน์::” button_color=”btn-success” ]