Covid-19 vaccination

ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์ฯ ออกประกาศ ข้อแนะนำเรื่องการฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับ หญิงตั้งครรภ์ และให้นมบุตร

ข้อแนะนำเรื่องการฉีดวัคซีนโควิด-19 สำหรับ หญิงตั้งครรภ์ และให้นมบุตร

ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ออกประกาศเรื่องการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ในสตรีตั้งครรภ์ หรือสตรีให้นมบุตร ระบุว่า เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศไทย ในช่วงนี้มีผู้ติดเชื้อเป็นจํานวนมากและแพร่กระจายไปหลายพื้นที่อย่างรวดเร็ว สตรีตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อโควิด-19 อาจหายได้เอง หรือมีอาการรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิตได้

จากการทบทวนการศึกษาขนาดใหญ่ของหลายประเทศทั่วโลก พบว่า สตรีตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อโควิด-19 มีความเสี่ยงที่โรคจะรุนแรงกว่าคนทั่วไป และมีโอกาสต้องเข้ารักษาในหอผู้ป่วยวิกฤติ (Intensive care unit, ICU) เพิ่มขึ้น ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดผลการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ เช่น ครรภ์เป็นพิษ เลือดแข็งตัวผิดปกติ ทารกตายในครรภ์ ทารกเกิดก่อนกําหนด ทารกน้ําหนักตัวน้อย ทารกติดเชื้อและต้องเข้ารักษาในหอผู้ป่วยทารกแรกเกิดวิกฤติสูงขึ้น

  • ดังนั้น สตรีตั้งครรภ์จึงถือเป็นกลุ่มที่จะได้รับประโยชน์จากการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อลดการติดเชื้อ ลดการเกิดโรคที่รุนแรงและลดการเสียชีวิต แม้ว่าข้อมูลด้านความปลอดภัยของการฉีดวัคซีนในสตรีตั้งครรภ์ยังมีจํากัด แต่ยังไม่พบหลักฐานที่บ่งชี้ว่าวัคซีนจะก่อให้เกิดอันตรายแก่สตรีตั้งครรภ์สูงกว่าคนทั่วไป การฉีดวัคซีนจึงมีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยงที่จะเกิดจากผลข้างเคียงของวัคซีน

ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย จึงมีข้อแนะนํา ดังนี้

  • สตรีตั้งครรภ์สามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้ ยกเว้นกรณีที่มีข้อห้าม เช่น มีอาการแพ้รุนแรงจากการฉีดครั้งแรก
  • ระยะเวลาที่ควรฉีดวัคซีนคือ หลังอายุครรภ์ 12 สัปดาห์ (3 เดือน)
  • สตรีที่ให้นมบุตรสามารถเข้ารับการฉีดวัคซีนได้
  • วัคซีนที่มีใช้ในประเทศไทย ในปัจจุบันนี้ มี 2 ชนิด คือ Sinovac และ AstraZeneca จากข้อมูลเบื้องต้นสามารถใช้ได้ทั้งสองชนิด แต่มีข้อสังเกตว่าวัคซีน Sinovac มีอัตราการเกิดไข้หลังการฉีดน้อยกว่า AstraZeneca วัคซีนทั้งสองชนิดมีความปลอดภัยในการฉีดให้คนทั่วไป และมีประสิทธิภาพที่ใกล้เคียงกัน ในอนาคตอาจจะมีวัคซีนชนิดอื่นๆ ให้เลือกเพิ่มขึ้น
  • ควรหลีกเลี่ยงการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 พร้อมกับวัคซีนชนิดอื่นๆ ยกเว้นมีความจําเป็น การฉีดวัคซีนชนิดอื่นๆ ควรเว้นระยะห่างอย่างน้อย 2 สัปดาห์หลังจากฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19
  • ผู้ที่วางแผนจะมีบุตร หรือผู้ที่อยู่ระหว่างการรักษาภาวะมีบุตรยาก โดยใช้ฮอร์โมนเพื่อกระตุ้นการตกไข่ เตรียมเยื่อบุโพรงมดลูกก่อนและหลังฝังตัวอ่อน เนื่องจากไม่มีข้อบ่งห้ามในการฉีดวัคซีนโควิด-19 สามารถฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้
  • การฉีดวัคซีนถือเป็นความสมัครใจ สตรีตั้งครรภ์ควรได้รับคําปรึกษาถึงประสิทธิภาพและความปลอดภัยของวัคซีนโดยละเอียดก่อนการตัดสินใจ.

ได้รับทราบข้อมูลแบบนี้แล้ว หวังว่าคุณแม่หลายคนในที่นี้คงจะโล่งใจขึ้น ขอแค่หมั่นดูแลสุขอนามัยของตัวเองอย่างเคร่งครัดและเตรียมตั้งรับให้พร้อมอยู่เสมอ ทั้งคุณและลูกน้อยในท้องก็จะมีสุขภาพดี ไม่ต้องเป็นกังวลระหว่างการตั้งครรภ์อย่างแน่นอนค่ะ

ด้วยความปรารถนาดีจาก Smile IVF Clinic

หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถติดต่อสอบถามได้ที่ Smile IVF Clinic

พร้อมให้คำปรึกษาในทุกช่องทาง

โทร. 02 097 1977

สายด่วน :

◎ 064-585-6324

◎ 064-585-6325

◎ 064-585-6326

◎ 064-585-6327

www.smileivf.com

Line : https://line.me/ti/p/@smileivf

IG : smileivf

E-mail : info@smileivf.com

Youtube : https://bit.ly/2RtAZ3P

อาคารอารีย์ ฮิลล์ (Ari Hills) ชั้น 21

428 ซอยพหลโยธิน 10, ถนนพหลโยธิน

แขวงสามเสนใน, เขตพญาไท

กรุงเทพมหานคร 10400

Line Official Account Smile IVF Clinic
YOU MAY ALSO LIKE